โรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่งของดอยคำ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร-บำเพ็ญประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ 2 เม.ย. 2565

โรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่งของดอยคำ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร-บำเพ็ญประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ 2 เม.ย. 2565

ดอยคำ (สำนักงานใหญ่) ทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ 2 เม.ย.2565

ดอยคำ (สำนักงานใหญ่) ทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ 2 เม.ย.2565

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 66 พรรษา วันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2565

บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด โดย นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และพนักงานประจำสำนักงานใหญ่ ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ ร้านดอยคำ สาขาราชเทวี

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

น้ำจิ้มบ๊วยดอยคำ ทำเพื่อโลก

น้ำจิ้มบ๊วยดอยคำ ทำเพื่อโลก

ผลิตภัณฑ์จากดอยคำ นอกจากจะช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ยังช่วยดูแลโลกด้วยนะ !

อย่างผลิตภัณฑ์ น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย (Sweet and Sour Plum Sauce) ของดอยคำ ที่นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ (By product) จากโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) จังหวัดเชียงใหม่
เป็นไอเดีย Upcycling Food ที่ไม่ใช่แค่เทรนด์ช่วยโลก ที่สามารถช่วยโลกได้จริงๆ

จากการชุบชีวิตวัตถุดิบส่วนที่ไม่ได้นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นความเสียเปล่าของทรัพยากร ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่า เป็นสินค้าผลพลอยได้จากการหมุนเวียนทรัพยากรในกระบวนการผลิต

ที่สำคัญยังเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโรคร้อน ด้วยการผลิตที่ตั้งใจให้ขยะเป็นศูนย์ หรือ ZERO WASTE นั่นเอง

สำหรับ วัตถุดิบอย่าง “บ๊วย” นั้น เป็นผลไม้ธรรมชาติในฤดูกาล ผลผลิตจากการส่งเสริมเกษตรกรชาวเขา ในพื้นที่สูงทางภาคเหนือ ถูกส่งมาให้ดอยคำนำมาแปรรูปเป็นบ๊วยหวานอบนุ่ม โดยน้ำเชื่อมที่ไม่ได้ถูกใช้ ดอยคำนำมารังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย (Sweet and Sour Plum Sauce) ซึ่งเป็นแนวคิดของการใช้วัตถุดิบในการผลิตอาหารให้คุ้มค่าที่สุด เหลือขยะน้อยที่สุด นำมาบรรจุในขวดแก้วใส ใส่เนื้อบ๊วยเพิ่มลงไปด้วยนะ เพื่อเพิ่มรสสัมผัส ส่งถึงผู้บริโภคได้ลิ้มลองกัน ที่ ร้านดอยคำทุกสาขา

ไม่ทางใดทางหนึ่ง ที่สามารถช่วยโลกได้ ดอยคำพร้อมเดินหน้าทำเพื่อโลกเสมอ เพราะเราพร้อมเดินหน้าไปสู่การเป็นองค์กรวิถีสีเขียว (Living Green) และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรในการผลิตอย่างคุ้มค่า เพื่อนำมาเพิ่มมูลค่าและใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

และคุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลกใบนี้ได้เช่นกัน

ขอบคุณภาพจาก : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

“The Mountain” ชั้นวางสินค้าจากกล่องน้ำผลไม้ดอยคำ ในโครงการ Upcycling Upstyling #2

“The Mountain” ชั้นวางสินค้าจากกล่องน้ำผลไม้ดอยคำ ในโครงการ Upcycling Upstyling #2

บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เข้าร่วมโครงการ “Upcycling Upstyling #2” รังสรรค์ผลงานรักษ์โลกจากกล่องน้ำผลไม้ยูเอชทีดอยคำ ที่มีชื่อว่า “The Mountain” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Home & Decoration ร่วมกับ บริษัท ปาร์ตี้สเปซดีไซน์เอสซี จำกัด (P.S.D) และ บริษัท แอดวานซ์แมท จำกัด ที่จัดขึ้นโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC

“The Mountain” ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบผลิตภัณฑ์มาจากชื่อแบรนด์ “ดอยคำ” คำว่า “ดอย” ทำให้มีแนวคิดเป็นภาพสามเหลี่ยม ที่มีความรู้สึกเหมือนภูเขา ผลงานที่ออกมาจึงเป็นชั้นวางสินค้าทรงสามเหลี่ยม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล เป็น Linear Low Density Polyethylene หรือ พอลิเอทิลีน (polyethylene) เรียกย่อว่า LLDPE เกิดจากกระบวนการแยกชั้นกระดาษออก เหลือแค่ชั้นโลหะ (อลูมิเนียมฟอยล์) และชั้นของอโลหะ (พลาสติก) ผสมรวมกัน จากนั้นนำมาขึ้นรูปชิ้นงานโดยการทำร่องด้วยเครื่องกลึง (Computer Numerical Control) ทำให้เกิดเป็นชั้นวางสินค้าที่มีร่องสวยงาม
ผลงานรักษ์โลกจากดอยคำ “The Mountain” ปัจจุบันได้นำมาใช้วางสินค้า ที่ บูธดอยคำ เซ็นทรัลวิลเลจ บริเวณประตู G ล็อก M114 สามารถชมได้ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 20.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น.

สำหรับ โครงการ “Upcycling Upstyling #2” เป็นการนำขยะพลาสติกต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ ECO-Design เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากขยะพลาสติกให้หลากหลาย ผ่านงานออกแบบ มุ่งให้เกิดการยกระดับสินค้า Upcycling ให้มีมูลค่าสูงขึ้น ขยายโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“ดอยคำ” พร้อมมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพิ่มมูลค่าขยะพลาสติกและนำกลับมาใช้ได้จริง ด้วยดำเนินงานแบบวิถีสีเขียว (Living Green)

DOIKHAM TRIO SAUCE x 4 RESTAURANTS คู่หูทุกมื้อเมนูอร่อยกับซอสดอยคำ กลมกล่อม ลงตัวทุกจาน

DOIKHAM TRIO SAUCE x 4 RESTAURANTS คู่หูทุกมื้อเมนูอร่อยกับซอสดอยคำ กลมกล่อม ลงตัวทุกจาน

“ดอยคำ” ร่วมมือกับ 4 ร้านอาหารชั้นนำ ได้แก่  “On The Table” ร้านอาหารฟิวชันหลากหลายสไตล์ ใส่ใจสุขภาพ “บ้านหญิง” ร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน “โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่” ร้านอาหารเช้าสุดคลาสสิกพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น และ “Omu” ร้านข้าวห่อไข่สุดละมุนเอกลักษณ์ในสไตล์ญี่ปุ่น  ครั้งนี้ ดอยคำเลือกนำผลิตภัณฑ์ซอส 3 สูตร 3 สไตล์ มาแนะนำให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ผ่านการเสิร์ฟคู่กับเมนูขายดี Signature ของแต่ละร้านดัง เหล่านักชิมสามารถเลือกเพิ่มอรรถรสได้ในแต่ละเมนูได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น รสเผ็ดหวานกำลังดี จากซอสพริกสูตรเผ็ดน้อย ผลิตจากพริกชี้ฟ้าคุณภาพดี หรือเพิ่มความอร่อย เข้มข้นกลมกล่อม จากซอสมะเขือเทศ เต็มเนื้อมะเขือเทศมากถึง 77% และสำหรับสายรักสุขภาพ ยังมีซอสมะเขือเทศ สูตรโซเดียมต่ำ จากการคัดสรรมะเขือเทศที่ระดับความสุก 70% ทำให้ได้ปริมาณโซเดียมต่ำตามธรรมชาติ รับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบจากเกษตรกรไทย

“ส้ม” ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด

หลังจาก NGO พบสารตกค้าง ภายในส้มทำให้ผู้บริโภคเกิดความกังวลใจในการรับประทานส้ม โดยทางสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย อธิบายว่า การที่ทาง NGO พบสารตกค้างในส้มมีดังนี้ :~

วิเคราะห์หาสารตกค้างในผลไม้ ต้องวิเคราะห์ตัวเนื้อและเปลือก โดยไม่ล้างผลไม้
กรมวิชาการเกษตร เคยทำการทดลองวิเคราะห์ส้มเขียวหวานและส้มโอ แยกเนื้อและเปลือก พบว่า สารตกค้างอยู่แค่ในเปลือกส้มเท่านั้น
ค่าสารตกค้างที่เกินมาตรฐาน MRLs หรือ Maximum Residue Limits ไม่ใช่ค่ามาตรฐานความปลอดภัย เป็นเพียงค่ามาตรฐานทางการค้าเท่านั้น
ค่า ADI (Acceptable Daily Intake) เป็นค่าความปลอดภัยที่บอกเราว่า ในแต่ละวัน ร่างกายมนุษย์สามารถรับสารนั้นเข้าสู่ร่างกายทางปากได้ทุกวันอย่างปลอดภัยจนตลอดอายุขัย ในปริมาณเท่าไหร่ มีหน่วยเป็น มิลลิกรัมของสาร / กิโลกรัมน้ำหนักตัวผู้บริโภค / วัน ซึ่ง ค่า ADI ต้องใช้ค่าเฉพาะอื่น มาประกอบด้วย คือ น้ำหนักตัว (body weight) ของผู้บริโภค และ ปริมาณส้มที่คนๆนั้นสามารถบริโภคได้ต่อวัน ยกตัวอย่างเช่น ค่า ADI ของพาราควอต (เป็นสารกำจัดวัชพืช) มีค่าเท่ากับ 0.005 มิลลิกรัม / น้ำหนักตัวของผู้บริโภค / วัน แสดงว่า คนน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม สามารถรับพาราควอตเข้าสู่ร่างกายได้อย่างปลอดภัยวันละ = 005 x 60 = 0.3 มิลลิกรัม

หากจะรับประทานส้มที่มีค่า ADI ดังกล่าว เกินค่าความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคที่มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 60 กิโลกรัม จะต้องรับประทานส้มทั้งเปลือก วันละ 15 กิโลกรัมต่อเนื่องไปจนหมดอายุขัย จึงจะเกิดอันตราย แต่หากรับประทานโดยการปอกเปลือกส้มออกก่อน จะทำให้ได้รับสารตกค้างภายในร่างกายน้อยลงกว่ารับประทานทั้งเปลือก

ขอบคุณที่มา : สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย

“ดอยคำ” จัดโครงการสื่อสัญจร (Press Tour) ประจำปี 2565 นำสื่อมวลชนเรียนรู้เส้นทางการกำเนิดดอยคำ ตามศาสตร์พระราชา ณ โรงงานหลวงฯ ที่ 1 (ฝาง) จ.เชียงใหม่

“ดอยคำ” จัดโครงการสื่อสัญจร (Press Tour) ประจำปี 2565 นำสื่อมวลชนเรียนรู้เส้นทางการกำเนิดดอยคำ ตามศาสตร์พระราชา ณ โรงงานหลวงฯ ที่ 1 (ฝาง) จ.เชียงใหม่

บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด จัดโครงการสื่อสัญจร (Press Tour) ประจำปี 2565 เพื่อให้สื่อมวลชนได้เรียนรู้เส้นทางการกำเนิดดอยคำตามศาสตร์พระราชา ด้วยการพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชุมชน จากผลผลิตของเกษตรกรไทย จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพภายใต้ตราสินค้าดอยคำ และการพัฒนา ต่อยอด เพื่อความยั่งยืนของเกษตรกรไทยจวบจนถึงปัจจุบัน ที่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม พ.ศ. 2565

ด้วย บริษัทฯ เป็นหนึ่งในโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 พระผู้ทรงก่อตั้ง โดยมีพระราชปณิธานให้รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน มาแปรรูปผ่านโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปทั้ง 3 แห่ง ตีตราผลิตภัณฑ์สินค้า “ดอยคำ” ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินงานตามพระปฐมบรมราชโองการ สืบสาน รักษา และต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10

สำหรับ โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและทุกข์ยากของราษฎรจากการถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาและลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้เกษตรกรไทยมีชีวิตความเป็นอยู่และมีรายได้ที่ดีขึ้น ปัจจุบันเป็นโรงงานหลวงฯ แห่งนี้ ได้รับซื้อผลผลิตของเกษตรกรไทยในราคาที่เป็นธรรมและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของดอยคำ

ล่าสุด โรงงานหลวงฯ ที่ 1 (ฝาง) จ.เชียงใหม่ แห่งนี้ ได้พัฒนาและต่อยอดในสายการผลิต สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งแบบหลอดและผลิตภัณฑ์ทาขนมปังแบบหลอดที่มาพร้อมดีไซน์ฝาบีบแบบใหม่ ที่ปาดง่าย กระจายได้ดี เพื่อให้ผู้บริโภคยุคปัจจุบันสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งสายการผลิตล่าสุดนี้ เป็นการพัฒนาและต่อยอดเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย

ดอยคำ ขนทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงาน “Royal Project Gastronomy Festival 2022 @ Siam Paragon”

ดอยคำ ขนทัพผลิตภัณฑ์ร่วมงาน “Royal Project Gastronomy Festival 2022 @ Siam Paragon”

24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 : บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ขนทัพผลิตภัณฑ์ดอยคำร่วมงาน “Royal Project Gastronomy Festival 2022 @ Siam Paragon” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Master Foods for Good Health” ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 – 6 มีนาคม พ.ศ.2565 ณ แฟชันฮอลล์ ชั้น1 (หน้าลิฟท์แก้ว) ศูนย์การค้าสยามพารากอน

โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี และประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง เข้าเยี่ยมชมบูธดอยคำ ที่นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมาวางจำหน่ายจัดโปรโมชันหลากหลายรายการ อาทิ น้ำเสาวรส ๕๐% ขนาด 1,000 มล. ซื้อ 1 แถม 1 (ราคาปกติกล่องละ 67 บาท) และน้ำผึ้งดอยคำในราคาพิเศษ พร้อมเตรียมนำผลิตภัณฑ์ใหม่ "น้ำเห็ดถั่งเช่าผสมเห็ดหลินจือ" ที่อยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมดื่ม วางจำหน่ายภายในงานนี้ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ด้วย โดยจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2565 และพบกับผลิตภัณฑ์ดอยคำอื่นๆ และโปรโมชันสุดพิเศษ รวมถึงผลิตภัณฑ์โครงการส่วนพระองค์ต่างๆ และมีการสาธิตเมนูพิเศษ จากเชฟชื่อดังระดับมาสเตอร์

นอกจากนี้ ดอยคำ ส่งน้ำสตรอว์เบอร์รี ดอยคำ เป็นวัตถุดิบในเมนูเครื่องดื่ม Rose Berry ที่ร้าน PENNII POPCORN CAFÉ ซึ่งเป็น 1 ใน 14 ร้านภายในสยามพารากอน ที่นำวัตถุดิบจากโครงการหลวงมารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่มรวมกว่า 30 เมนู ร่วมจำหน่ายภายในร้านไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2565 ที่บริเวณ โซน Gourmet Garden ชั้น G พิเศษสำหรับลูกค้าที่รับประทานอาหารที่ร่วมรายการครบ 800 บาท รับน้ำผลไม้ดอยคำจำนวน 1 แพ็ค (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

สามารถร่วมงาน “Royal Project Gastronomy Festival 2022 @ Siam Paragon” ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 - วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2565 ณ แฟชัน ฮอลล์ ชั้น 1 และกูร์เมต์ มาร์เก็ต ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ดอยคำ จับมือ สำนักวิทยาศาตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกันพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเกษตรกร

ดอยคำ จับมือ สำนักวิทยาศาตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกันพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเกษตรกร

21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 : บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด โดย นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการร่วมกันพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเกษตรกร กับ สำนักวิทยาศาตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยมี รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมลงนาม ณ ห้องประชุมคำมอกหลวง อาคารศูนย์ปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (M-Square) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

สำหรับความร่วมมือนี้ เกิดจากดอยคำและสํานักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพของเกษตรกร ภายใต้งานส่งเสริมการปลูกพืช บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ในเขตพื้นที่งานส่งเสริมเกษตร ของโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และ ในเขตพื้นที่งานส่งเสริมเกษตร ของโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

“ดอยคำ” มุ่งมั่นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ภายใต้มาตรฐานสากล โดยใช้แนวทางบริหารตามศาสตร์พระราชา ยึดมั่นการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรให้มีความปลอดภัย ควบคู่กับการพัฒนาความกินดี อยู่ดี ของเกษตรกร ให้มีสุขภาพที่ดีและประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างมีคุณภาพ

สตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำ ความอร่อยเฉพาะฤดูกาล

สตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำ ความอร่อยเฉพาะฤดูกาล

ช่วงฤดูกาลนี้ “ดอยคำ” นำเสนอ “สตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำ” คัดสรรผลสดคุณภาพดีจากยอดดอยส่งตรงถึงร้านดอยคำ ด้วยระบบรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพื่อเก็บความสด คงความหอม ให้ได้สตรอว์เบอร์รีสดพรีเมียม แบบฉบับดอยคำ

เคล็ดลับความอร่อยของ สตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำ เริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 ที่เหมาะสมกับภูมิประเทศ สามารถเจริญเติบโตได้ดีบนยอดดอย ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพในสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ขั้นตอนการปลูกและดูแล ดอยคำมีการส่งเสริมเกษตรกรเพื่อให้การปลูกและการคัดเลือกผลผลิตมีคุณภาพและมาตรฐาน โดยเฉพาะมาตรฐานปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP: Good Agriculture Practice) ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีเรื่องความปลอดภัย ให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ยิ่งขึ้น โดยสตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำ จะมีเครื่องหมาย GAP และข้อมูลสำหรับตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกกล่อง

และที่เป็นเคล็ด (ไม่) ลับของดอยคำให้ได้ความอร่อย หวานฉ่ำ ไม่แพ้สตรอว์เบอร์รีนำเข้านั้นก็คือ การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ความสุกระดับ 85 - 90 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

สตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำ  มีจำหน่ายทั้งหมด 3 ขนาด ดังนี้

ขนาด 16 ลูก (480 กรัม) กล่องละ 550 บาท
ขนาด 20 ลูก (450 กรัม) กล่องละ 370 บาท
ขนาด 24 ลูก (380 กรัม) กล่องละ 270 บาท

สามารถลิ้มลองความอร่อยนี้ได้แล้ว ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยติดตามรอบจำหน่ายสตรอว์เบอร์รีพรีเมียม ดอยคำได้ที่

Facebook: doikhamfp
Line: @doikham

เพราะดอยคำคัดสรรทุกขั้นตอนด้วยใจ เพื่อให้ท่านได้รับประทานผลิตผลคุณภาพจากเกษตรกรไทย บนมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดอยคำ